สัมภาษณ์

สัมภาษณ์วีซ่าเยอรมัน วีซ่าแต่งงาน,ท่องเที่ยว และวีซ่าเยี่ยมเยือน

ความรู้ทั่วไป

จงจำไว้ว่า ถึงเอกสารครบ หลักฐานแน่น ถึงจะดูผ่าน  70-80 % แล้ว แต่การสอบสัมภาษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมีเยอะมากที่วีซ่าไม่ผ่าน เพราะคิดว่าเอกสารแน่นแล้ว แต่ถ้าการสัมภาษณ์ไม่แสดงถึงเจตนารมณ์ในการไปท่องเที่ยว หรือเยียมเยือน ที่น่าเชื่อถือ ทางสถานฑูตก็จะมีปฏิเสธการให้วีซ่าได้ วันนี้มาดูกันว่ามีคำถามอะไรมั่งที่ทางสถานฑูตมักจะถามบ่อยๆกันค่ะ…..

อันดับแรกสิ่งที่ควรรู้เวลาไปสอบสัมภาษณ์วีซ่า คือ

  1. เวลาให้สัมภาษณ์ ห้ามโกหก ควรพูดความจริงเท่านั้น!!
  2. เวลาไปสัมภาษณ์ไม่ควรไปสาย !! (ควรไปก่อนเวลาซัก ครึ่งชั่วโมงกำลังดี)
  3. และการแต่งกาย ควรแต่งกายแบบสุภาพ !!
  4. เตรียมเอกสารให้พร้อม ตรวจทานดูอีกรอบว่าลืมอะไรไหม ใบนัดด้วย อย่าลืมปริ้นไปด้วย

วีซ่าท่องเที่ยว

คำถามที่ทางสถานฑูตจะถาม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ยื่นขอวีซ่า ต้องการไปท่องเที่ยวจริง ไม่แอบไปทำงาน หรือโดดวีซ่า เพราะฉะนั้นเราควรเข้าใจทางสถานฑูตด้วยเนาะ คำถามที่เจอบ่อยๆเช่น

  • ไปเที่ยวกี่วัน ?
  • เดินทางวันไหน กลับวันไหน?
  • เรียนอยู่ชั้นอะไร (ถ้ายังศึกษาอยู่)?
  • มีคนรู้จักที่ประเทศเยอรมนีไหม?
  • ปัจจุบันทำงานที่ไหน ?
  • ทำตำแหน่งอะไร แผนกอะไร?
  • ทำงานมากี่ปีแล้ว?
  • ลางานนานแบบนี้ไม่มีปัญหาที่ทำงานใช่ไหม?
  • ไปกันกี่คน?
  • ไปเที่ยวไหนมั่ง ? ( อันนี้เราควรศึกษาไปด้วยนะค่ะว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนมั่ง นอนเมืองไหน กี่คืน ถึงแม้บางคนอาจจะไม่คนทำโปรแกรมทัวร์ แต่อาจเป็นเพื่อนทำทั้งหมด ถ้าบอกไม่รู้ แล้วบอกว่าเพื่อนทำ ก็อาจดูไม่ดี เพราะถ้าเราจะไปเที่ยวจริงๆเราต้องรู้บ้างอ่ะค่ะ )
  • โปรแกรมทัวร์ทำเองไหม ?
  • ค่าใช้จ่ายที่ไปเที่ยวออกเองไหม ?
  • เดินทางท่องเที่ยวแบบไหน? (เช่ารถ, รถไฟ ฯลฯ)
  • ไปเที่ยวเองหรือไปกับทัวร์?
  • ไปประเทศไหนบ้าง กี่วัน?
  • ลงเครื่องที่สนามบินอะไร?
  • passport มารับเองหรือส่งไปรษณีย์?

วีซ่าเยี่ยมเยือน( เช่นแฟน หรือ ญาติ)

กรณีแฟน ควรมีรูปแสดงความสัมพันธ์จะดีมากค่ะ เช่น รูปที่ไปเที่ยวด้วยกัน หรือข้อความ อีเมล์ที่เคยส่งหากัน เพื่อยืนยันว่าเคยเจอกันแล้ว เป็นแฟนกันจริง จะดีมากค่ะ เพราะมีบางคนไม่เคยเจอกันเลย บอกเลยว่าโอกาสได้วีซ่าน้อยกว่าคนที่เคยเจอกันจริงๆมากค่ะ เพราะทางสถานฑูตอาจปฎิเสธวีซ่าได้ เนื่องจากความปลอดภัยของตัวท่านเอง ทางที่ดีควรให้ฝั่งผู้ชายมาหาเราก่อนเป็นดีที่สุดค่ะ คำถามที่เจอบ่อยเช่น

  • ไปเยอรมันกี่วัน ?
  • เดินทางวันไหน กลับวันไหน ?
  • เรียนอยู่ชั้นอะไร? (กรณียังศึกษาอยู่)
  • ลางานนานแบบนี้ไม่มีปัญหาที่ทำงานใช่ไหม?
  • รู้จักกันนานหรือยัง ?(แฟน)
  • เคยเจอกันหรือยัง ?(แฟน)
  • ติดต่อกันยังไง ?(แฟน)
  • เค้าเคยส่งตังค์ให้ใช้ไหม? (แฟน)
  • ไปพักกับใคร? (แฟน ,ญาติ)
  • เกี่ยวข้องกับเรายังไง ?(ญาติ)
  • เป็นญาติฝั่งไหน ?
  • ไม่เจอกันนานหรือยัง? (แฟน, ญาติ)
  • เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ? (แฟน, ญาติ )
  • เคยมาหาที่เมืองไทยไหม? (แฟน)
  • ออกค่าใช้จ่ายเองหรือ แฟน/ ญาติ ออกให้ ?

เกี่ยวกับรายละเอียดของตัวคุณ และของผู้เชิญ ในกรณีเยี่ยมญาติก็อาจอาจมีคำถามเพิ่มขึ้นเช่น

  • ญาติแต่งงานมากี่ปีแล้ว ?
  • อยู่เยอรมันกี่ปีแล้ว ?
  • ญาติมีลูกไหม ?
  • มาเมืองไทยบ่อยไหม ?
  • เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?

****แต่ถ้าเยี่ยมแฟน แนะนำให้แนบหลักฐานความสัมพันธ์เยอะๆ เพราะมีเคสโดนถามเกี่ยวกับครอบครัวแฟน แม่ น้องสาว ถามเยอะเพราะหลักฐานความสัมพันธ์ไม่แน่นพอ เคยมีเพื่อนคนหนึ่งขอไม่ผ่าน เพราะเพื่อนตอบเกี่ยวกับครอบครัวแฟนไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรเตรียมข้อมูลให้แน่นๆ เผื่อไว้ค่ะ !!

****และถ้าเยี่ยมญาติควรมีทะเบียนบ้านแสดงความสัมพันธ์ด้วยค่ะ

วีซ่าติดตามสามี หรือ วีซ่าแต่งงาน

ทุกคนที่แต่งงานกับคนเยอรมัน แล้วต้องการย้ายตามสามีไปอยู่เยอรมัน เป็นวีซ่าระยะยาว บุคคลนั้นต้องต้องเรียนภาษาเยอรมันขั้นพื้นฐานและสอบผ่านได้ใบ A1 ให้ได้ก่อน เพื่อยื่นประกอบขอวีซ่า เพราะฉะนั้นทางสถานฑูตจะสัมภาษณ์เป็นภาษาเยอรมันด้วย แต่ก็ไม่ยาก

อันดับแรก คือ เค้าจะให้เราแนะนำตัวเองเป็นภาษาเยอรมัน เหมือนตอนสอบ A1 นั่นแหละค่ะ

Ich heiße ………….Ich bin ……….Jahre alt . Ich bin verheiratet. Ich habe zwei kinder . ฯลฯ อะไรก็ว่าไป ประมาณนี้อะค่ะ ไม่ยาก.

อันดับที่สอง เจ้าหน้าที่จะถามเราเป็นภาษาเยอรมัน ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร จงอย่าตื่นเต้น แค่ตั้งใจฟัง ว่าเจ้าหน้าที่ถามอะไร เราก็ตอบตามนั้นค่ะ หรืออาจจะไม่ถาเป็นเยอรมัน แต่ถามเป็นภาษาไทยแทน คำถามเช่น

  • แต่งงานนานหรือยัง ?
  • เป็นคนจังหวัดอะไร?
  • มีลูก(ติด)กี่คน?
  • มีแปลนจะเอาลูกไปอยู่ด้วยไหม?
  • ตอนนี้ลูกอาศัยอยู่กับใคร?
  • คุณทำอาชีพอะไร ?
  • สามีชื่ออะไร?
  • รู้จักกับสามีได้อย่างไร?
  • สามีอายุเท่าไหร่?
  • สามีอยู่เมืองอะไร (ที่เยอรมัน)?
  • เจอกับสามีสามีล่าสุดตอนไหน ?
  • ในครอบครัวสามีมีใครบ้าง?
  • สามีมีลูกติดไหม กี่คน และชื่ออะไร?
  • ติดต่อกันยังไง ?
  • คุยกันภาษาอะไร?
  • ฯลฯ

และอาจมีคำถามที่นอกเหนือจากนี้แต่คงไม่แตกต่างกันมาก ส่วนมากเจ้าหน้าที่ต้องการเห็นว่าเรารู้จักกับสามีเราจริงๆ ไม่ได้แต่งงานแบบหลอกๆ เพื่อไปทำงาน หรือจ้างคนมาแต่งงานเพื่อหวังประโยชน์อย่างอื่น หรือหญิงไทยอาจอาจโดนหลอกแต่งงานเองก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจงมั่นใจ และตอบความจริง ทุกอย่างก็จะราบรื่นเองค่ะ


หวังว่าข้อความหล่าวนี้คงประโยชน์ไม่มากก็น้อย รบกวนกดแชร์ให้เพื่อนๆทราบด้วยนะค่ะ 🙂 และขอให้ทุกคนโชคดีในการขอวีซ่านะคะ …..

>>>>>>อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมเอกสารในการยื่นวีซ่า